น้ำมันมะพร้าว โดย หมอพลอยใส

กรกฎาคม 07, 2568
น้ำมันมะพร้าว โดย หมอพลอยใส
 

 

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

น้ำมันมะพร้าว คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกการออกมาจากเนื้อผลของต้นมะพร้าว  ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลปาล์ม 

 

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวที่วางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดและได้รับความสนใจก็คือ Virgin Coconut Oil จะเป็นการใช้วิธีการสกัด โดยการแยกส่วนของน้ำมัน ออกมาจากเนื้อมะพร้าวโดยที่ไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูง และไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมี โดยวิธีที่ใช้ในการเตรียม Virgin Coconut Oil ก็คือวิธีการบีบเย็น

 

น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก

สารสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก็จะเป็นตัวกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งเราสามารถพบได้มากถึง 90% แต่กรดไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่ที่พบในน้ำมันมะพร้าวมีความพิเศษเฉพาะตัว คือเป็นกรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลสายปานกลาง (Medium-chain Triglyceride หรือ MCT) อย่างเช่น กรดลอริก (Lauric acid) 

เมื่อเรารับประทานเข้าไปจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และจะถูกเผาผลาญได้ดี ทำให้มีการสะสมในเนื้อเยื่อไขมันได้น้อยกว่ากรดไขมันที่มีสายขนาดยาว เช่นกรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พบมากในน้ำมันถั่วเหลือง จากคุณสมบัติข้างต้นทำให้ทำให้น้ำมันมะพร้าวเนี่ยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในการที่จะรับประทานเพื่อเข้าไปช่วยควบคุมน้ำหนักหรือช่วยลดความอ้วนเป็นจำนวนมาก 

 

สร้างคีโตน สารช่วยบำรุงสมอง

จากการที่น้ำมันมะพร้าวเป็นกรดไขมันอิ่มตัวโมเลกุลสายขนาดกลาง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะสามารถดูดซึมได้ทันทีและถูกส่งต่อไปยังต่ำเมื่อไปถึงที่ตับ  ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนกรดไขมันเหล่านี้ ให้กลายเป็นสารที่ชื่อว่าคีโตน ซึ่งสารคีโตนเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของสมอง ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยในเรื่องของความจำได้อีกด้วย

 

คุมหิว

นอกจากผลในการช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญของน้ำมันมะพร้าวแล้ว ในน้ำมันมะพร้าวก็ยังจะช่วยทำให้เราอิ่มท้องได้นานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

เผา Fat

นอกจากนี้ยังมีส่วนที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลทำให้การเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นโดยเฉพาะไขมันที่มีการสะสมที่บริเวณช่องท้อง

 

งานวิจัยทดลอง น้ำมันมะพร้าว / น้ำมันถั่วเหลือง

รายงานการศึกษาทางคลินิกของทางคณะโภชนาการมหาวิทยาลัยสหพันธ์อาลาโกอัสในประเทศบราซิล ได้ทำการทดลอง

  • เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่รับประทานน้ำมันมะพร้าวและกลุ่มที่รับประทานน้ำมันถั่วเหลืองในผู้หญิงที่มีภาวะอ้วนลงพุงโดยกลุ่มอาสาสมัครนี้จะมีอายุ 20 ถึง 40 ปี 
  • โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มกลุ่มละ 20 คนและรับประทานน้ำมันในปริมาณ 30 มิลลิกรัมต่อวันเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ระหว่างการทดสอบกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มนี้ทุกคนนะคะก็จะได้รับอาหารที่มีพลังงานต่ำและควบคู่กับการออกกำลังกาย 4 วันต่อสัปดาห์ 
  • โดยจากการทดลอง พบว่ากลุ่มที่ได้รับน้ำมันมะพร้าวไม่พบการเปลี่ยนแปลงของระดับคอเรสเตอรอลรวมและเจ้าตัวไขมันร้าย อย่าง LDL แต่มีระดับของไขมันดีอย่าง HDL ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.03 เลยทีเดียว 
  • ในขณะเดียวกันนะคะในกลุ่มที่ได้รับน้ำมันถั่วเหลืองมีระดับของคอเลสเตอรอลรวมและไขมันตัวร้ายอย่าง LDL เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.45 และ 23.48 ตามลำดับ นอกจากนี้ระดับของไขมันตัวดีอย่าง HDL มีปริมาณที่ลดลงสูงถึงร้อยละ 12.62 เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนที่จะเริ่มทดลอง 
  • แต่อย่างไรก็ตามาระดับไตรกลีเซอไรด์ของทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ 
สรุปผลการทดลอง
  • แม้ว่าการศึกษานี้อาจจะไม่ได้แสดงถึงผลที่ชัดเจนว่าน้ำมันมะพร้าวมีผลที่จะทำให้น้ำหนักตัวของเราลดลง และไม่ทำให้ระดับปริมาณไขมันที่สำคัญกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอลรวม ไขมันตัวร้าย และไตรกลีเซอไรด์ 
  • แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สามารถที่จะเข้าไปช่วย เพิ่มระดับของไขมันดี อย่าง HDL ที่จะเข้าไปช่วยลดอัตราการเกิดโรคร้ายดังกล่าวได้อีกด้วย
  • อย่างไรก็ตามการที่เราจะทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก จำเป็นที่จะต้องทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร เพื่อให้พลังงานที่ได้รับต่อวัน ไม่เกินความจำเป็น

 

ประมาณต่อวัน
  • ปริมาณที่ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเนี่ยแนะนำให้รับประทานในปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวันและแนะนำให้รับประทานน้ำมันมะพร้าวในช่วงที่ท้องว่างค่ะอย่างเช่นหลังจากตื่นนอนตอนเช้า
  • ถ้าหากใครรับประทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบน้ำแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบแนะนำให้ลองหาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่อยู่ในรูปแบบของ soft gel วันละ 1 เม็ด เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานแล้วก็ไม่มีเรื่องกลิ่นมารบกวน

 

ข้อควรระวัง 
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ ไขมันในเลือดสูงมากๆ เพื่อความปลอดภัยยังไม่แนะนำให้รับประทาน
  • สำหรับใครที่ต้องมียาที่จะต้องรับประทานเป็นประจำหรือมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนที่จะตัดสินใจรับประทาน เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดควรขอเข้าคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเภสัชกรก่อนตัดสินใจรับประทาน