แคลเซียมในร่างกายมนุษย์

แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย

• 99% ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในกระดูกและฟัน โดยจะมีส่วนที่จะเข้าไปช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกทำให้กระดูกแข็งแรง โดยในร่างกายของคนที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม จะพบแร่ธาตุแคลเซียม ในร่างกายประมาณ 1 กิโลกรัม
• และอีก 1% แคลเซียมจะอยู่ในเลือดี่ มีหน้าที่ทำการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นการหดตัวของกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจ จึงถือว่าแคลเซียมเป็นส่วนสำคัญ ต่อการทำงานของร่างกายในเกือบทุกส่วนเลย

ถ้าร่างกายขาดแคลเซียม

ที่สำคัญแคลเซียม ยังมีหน้าที่ในการสร้างกระดูกซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของร่างกายของเราอีกด้วย เมื่อร่างกายของเราได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอร่างกายก็จะไปดึงเอาแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกออกมาใช้เมื่อแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกนำออกมาใช้เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงที่จะอยู่ในภาวะกระดูกพรุนและเปราะและความแข็งแรงของกระดูกก็จะลดลง เสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกหักได้แม้จะได้รับแรงกระแทกอยู่เพียงเล็กน้อย

โรคกระดูกพรุน

ในบทความสุขภาพจากทางคณะเภสัชศาสตร์ของทางมหาวิทยาลัยมหิดล ( แคลเซียม .. สาระน่ารู้ โดย พิชญ์ภิญญาณ์ แก้วปานันท์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ) ได้มีการระบุไว้ว่าถ้าร่างกายของเราได้รับแร่ธาตุแคลเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน สำหรับโรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูก มีปริมาณที่ลดลงทำให้กระดูกมีความเปราะบางและมีโอกาสที่จะแตกหักง่าย โดยในคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป พบว่ามีการสูญเสียมวลกระดูกเนียนมากขึ้นและมีอัตราการสูญเสียเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี

โรคความดันโลหิตสูง

และถ้าได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งได้มีการศึกษาพบว่าคนที่มีความดันโลหิตสูงมักจะมีการรับประทานแคลเซียมที่น้อยกว่าคนปกติ และระดับแคลเซียมที่เพิ่มขึ้น ก็มีส่วนที่จะทำให้ระดับความดันโลหิตเนี่ยลดลงได้ด้วย แคลเซียมมีส่วนที่จะเข้าไปช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีการบีบตัวได้ดีมากยิ่งขึ้นทำให้หัวใจและหลอดเลือดคะทำงานได้อย่างเป็นปกติ

แหล่งอาหารที่มีแคลเซียม

ในบทความนี้ยังได้ระบุอีกว่าแหล่งอาหารที่เราสามารถได้รับแคลเซียม ก็จะเป็นอาหารจำพวกปลา ตัวเล็กที่สามารถทานได้ทั้งกระดูก กุ้งฝอย กุ้งแห้ง และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากถั่วเหลือง 

การดูดซึมของแคลเซียมชนิดต่างๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถรับประทานแคลเซียมเสริมในรูปแบบเม็ดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ แต่ว่าในแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะมีข้อแตกต่างกันออกไป ในส่วนของชนิดของแคลเซียมและการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เช่น 

• แคลเซียมคาร์บอเนตในปริมาณ 100 มิลลิกรัมต่อวันก็สามารถที่จะดูดซึม แคลเซียมได้อยู่ที่ประมาณ 40 มิลลิกรัม 
• แคลเซียมซิเตทในปริมาณ 100 มิลลิกรัม สามารถที่จะดูดซึม แคลเซียมได้อยู่ที่ 25 มิลลิกรัม
• แคลเซียมซิเตรทในปริมาณ 100 มิลลิกรัม สามารถดูดซึมแคลเซียมได้อยู่ที่ประมาณ 21 มิลลิกรัม
• แคลเซียมแลคเตทในปริมาณ 100 มิลลิกรัม สามารถดูดซึมแคลเซียมได้อยู่ที่ 13 มิลลิกรัม
• แคลเซียมกลูโคเนต ในปริมาณ 100 มิลลิกรัม สามารถดูดซึมแคลเซียมได้อยู่ที่ 9 มิลลิกรัม

ดังนั้นในการที่เราจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาออกมาเป็นเม็ดที่มีการดูดซึมได้ง่าย จะยิ่งทำให้เรา รับประทานแคลเซียมไปแล้วก็ถูกดูดซึมได้ดีในร่างกายของเรา และควรมีส่วนผสมของวิตามินดี เพราะวิตามินดีมีส่วนสำคัญที่จะเข้ามาช่วย ดูดซึมแคลเซียมและเป็นประโยชน์ต่อกระดูก

ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับ

และสำหรับปริมาณแคลเซียมที่ร่างกาย ควรได้รับในแต่ละช่วงอายุ

• อายุน้อยกว่า 40 ปี ก็ควรที่จะได้รับแร่ธาตุแคลเซียมหาอยู่ที่ 800 มิลลิกรัม ต่อวัน
• ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ก็ควรที่จะได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 1,000 กรัมต่อวัน
• ส่วนผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และคนที่มีอายุในช่วงอายุ60 ปีขึ้นไป ควรที่จะได้รับปริมาณของแคลเซียมอยู่ที่ 800-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

ช่วงเวลาที่ควรรับประทาน

• ควรรับประทานแคลเซียมพร้อมมื้ออาหารเย็น เพราะช่วงเวลากลางคืนนะคะเป็นช่วงเวลาที่แคลเซียมจะไหลออกจากกระดูกมากที่สุด ดังนั้นถ้าหากเรารับประทานในช่วงเวลานี้ก็จะช่วยทำให้ประมาณแคลเซียมสูงขึ้น ช่วยป้องกันแคลเซียมไหลออกจากกระดูก ช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกบาง
• หรือควรรับประทานแคลเซียมหลังอาหาร เนื่องจากกระเพาะอาหารจะมีสภาพเป็นกรดก็จะยิ่งช่วยทำให้แคลเซียมมีการแตกตัวและละลายน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น
• ที่สำคัญและความปลอดภัยสูงสุดก่อนที่เราจะตัดสินใจรับประทานผลิตภัณฑ์แคลเซียมควรที่จะปรึกษากับทางแพทย์
  เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุด

บทความอ้างอิง

1. แคลเซียม .. สาระน่ารู้ โดย พิชญ์ภิญญาณ์ แก้วปานันท์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/235/แคลเซียม-สาระน่ารู้/
2. เสริมแคลเซียมคนท้องจำเป็นไหม แม่ท้องควรเริ่มกินเมื่อไหร่ https://www.s-momclub.com/articles/pregnancy/calcium-needs-in-pregnancy
3. รับประทานแคลเซียมอย่างไร ให้ได้ผล โดย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย https://kcmh.chulalongkornhospital.go.th/line/รับประทานแคลเซียมอย่าง/