สารอาหารบำรุงดวงตา

กันยายน 04, 2568
สารอาหารบำรุงดวงตา

สารอาหารบำรุงดวงตา

 - ทำไมลูทีน ซีแซนทีน สารสกัดบิลเบอร์รี่ และเบต้า-แคโรทีน ถึงสำคัญต่อดวงตา? ในยุคดิจิตัล เราใช้สายตากับหน้าจอหลายชั่วโมงต่อวัน ดวงตาต้องเผชิญกับแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง ตาพร่ามัว การทานวิตามินบำรุงสายตา จึงเป็นสิ่งที่เราควรพิจารณา 

 

 

1) ลูทีน (Lutein)

  • ลูทีนในร่างกายจะสะสมอยู่มากบริเวณ “จุดรับภาพ (macula)” และ ”เรตินา (Retina)"
  •  ช่วยปกป้องจอประสาทตา macula ช่วยกรองแสงสีฟ้า
  • ปกป้องเนื้อเยื่อดวงตา ลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
  • ลูทีนที่อยู่บริเวณผิวหนัง ช่วยเสริมสุขภาพผิว ให้ทนต่อรังสียูวีมากขึ้น
  • ลูทีนมักใช้คู่กับซีแซนทีนเพื่อเสริมกัน
  • ร่างกายควรได้รับลูทีน 6–10 มก./วัน (แต่โดยทั่วไปผู้ที่บริโภคได้รับลูทีนเฉลี่ยเพียง 1.7 มก./วัน จากอาหาร)
  • ถึงลูทีนไม่ใช่สารจำเป็น แต่ลูทีนที่ไปสะสมใน macula ถ้ามีไม่พอแล้วเป็นอย่างไร?
    • ชั้นเม็ดสีปกป้องจอประสาทตาบางลง 
    • อาจไวต่อแสงสีน้ำเงินมากขึ้น ล้าตา/แสบตาง่ายเวลาใช้จอนาน 
    • ความไวคอนทราสต์และการฟื้นตัวจากแสงจ้าอาจแย่ลงเล็กน้อย
    • ระยะยาว: ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อมอยู่แล้ว อาจเพิ่มโอกาสลุกลามได้มากกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ได้เพียงพอ

 

2) ซีแซนทีน/ซาแซนทีน (Zeaxanthin)

  • สะสมใน “จุดรับภาพ (macula)” ของจอประสาทตา คู่กับลูทีน
  • ช่วยเรื่อง การมองเห็นคมชัด และ ความทนต่อแสงจ้า
  • เป็นคู่หูของลูทีน ทำหน้าที่คล้ายกันและอยู่บริเวณ macula เช่นกัน
  • ทาน พร้อมมื้อหรือน้ำมันที่มีไขมันดี จะช่วยให้ดูดซึมลูทีน/ซีแซนทีนได้ดีกว่า
  • ร่างกายควรได้รับ ซีแซนทีน ราว 2–4 มก./วัน
  • ซีแซนทีนไม่ใช่สารจำเป็นเช่นเดียวกับลูทีน แต่ถ้าได้รับไม่เพียงพออาจมีแนวโน้ม
    • อาจรับแสงจ้าได้น้อยลง
    • ฟื้นตัวจากแสงช้าลง
    • มีแนวโน้มล้าตาง่ายขึ้นเมื่อจอนาน ๆ

 

 

3) สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry extract)

  • ช่วยดูแลหลอดเลือดเลี้ยงดวงตา
  • ช่วยเรื่อง ตาล้า/แห้ง ในบางส่วนของตา
  • อุดมด้วย แอนโธไซยานิน (สารต้านอนุมูลอิสระ)
  • ได้รับจากพืชตระกูลเบอรี่
  • ร่างกายควรได้รับ บิลเบอร์รี่สกัดมาตรฐาน ราว 80–160 มก./วัน
  • ถึงไม่ใช่สารอาหารจำเป็น แต่ถ้าขาด อาจพลาดประโยชน์จากสารแอนโธไซยานิน
    • ขาดการช่วยลดอนุมูลอิสระ
    • ขาดการสนับสนุนหลอดเลือดเลี้ยงตา
    • ล้าตาง่ายขึ้นเมื่อใช้สายตาหนัก (บางคน)

 

4) เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene)

  • เกี่ยวข้องกับ การเห็นในที่มืด และ เสริมภูมิคุ้มกัน
  • เป็น Pro-vitamin A ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามิน A
  • ได้รับจากอาหารธรรมชาติ เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ ฯลฯ
  • เป็นแหล่งวิตามินเอ ถ้าร่างกายขาดวิตามินเอ
    • มองเห็นในที่มืดแย่ลง (ตาฟางกลางคืน)
    • ตาแห้ง แสบตา น้ำตาน้อย เยื่อบุตา–กระจกตาเสียหายถ้ารุนแรง
    • ผิว–เยื่อบุแห้ง ติดเชื้อง่าย ภูมิคุ้มกันถดถอย

 

 

วิธีทานให้ได้ผลคุ้มค่า

  1. ทานพร้อมมื้อ โดยเฉพาะมื้อที่มีไขมันดี (ช่วยดูดซึม)
  2. สม่ำเสมอ: เม็ดสีในจอประสาทตาเพิ่มช้า ผลลัพธ์ต้องใช้เวลา
  3. คู่กับอาหารจริง: ผักใบเขียวเข้ม ข้าวโพด ไข่แดง แครอท ฟักทอง มันเทศ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
  4. พักสายตา: 20-20-20 (ทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต 20 วินาที) และปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะ

 

ใคร “น่าจะได้ประโยชน์”

  • คนใช้สายตาหนัก: ทำงานหน้าจอ, ชอบจ้องโทรศัพท์, ตาสู้แสงจ้า, ขับรถกลางคืนบ่อย
  • ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการดูแลจอประสาทตาเพิ่มเติม
  • คนที่กินผักผลไม้สีเข้มไม่พอในแต่ละวัน

 

คำถามพบบ่อย

ถาม: กินแล้วตาดีขึ้นทันทีไหม?
ตอบ: ไม่ใช่ผลทันที ต้องใช้เวลาสะสมและควบคู่กับพฤติกรรมดูแลสายตา

ถาม: ถ้ากินผักผลไม้เยอะอยู่แล้ว ยังต้องเสริมไหม?
ตอบ: หลายคนพอจากอาหาร แต่ถ้าใช้สายตาหนัก/กินไม่พอ การเสริม “อาจ” ช่วยได้—ประเมินตามไลฟ์สไตล์และงบประมาณ

ถาม: กินเวลาไหนดี?
ตอบ: พร้อมอาหาร (มีไขมันดี) จะดูดซึมได้ดีกว่า

 

 

ข้อควรระวังสำคัญ

  • ผู้สูบบุหรี่/เคยสูบบุหรี่: หลีกเลี่ยง “การเสริม” เบต้าแคโรทีน
  • ผู้ใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) หรือมีโรคตา/โรคเรื้อรัง → ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • อาหารเสริม ไม่รักษาโรค และ ไม่ทดแทน การตรวจสายตาและจอประสาทตาตามคำแนะนำของจักษุแพทย์

 

References

  1.  มาถนอมสายตากัน LUTEIN - YouTube: https://www.youtube.com/shorts/3uxlg8WEezE

  2. มิราเคิล ลูทีน พลัส ซีแซนธิน Shopee: https://shopee.co.th/product/81741185/43809582856